วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

มารู้จัก โรคผื่นผิวหนังอักเสบกันเถอะ ตอน ผื่นเเดงรอบปาก

www.chililemonspa.com
www.facebook.com/chilile lemon
Line chililemonka, whatapp 0851345844

มารู้จักผื่นผิวหนังอักเสบ Eczema กันเถอะ  มีหลายชนิด ชนิดที่จะนำเสนอวันนี้คือ 




Perioral Dermatitis 
"เพอริออรัล เดอร์มาไทติส"  (perioral dermatitis)  หรือ "พีโอดี" (POD) อาการผื่นผิวหนังอักเสบรอบปา
คล้ายกับสิวมากๆ ลักษณะเป็นผื่นแดงและเป็นตุ่ม บางทีก็เป็นเม็ดหรือตุ่มหนองขึ้นมา ผู้ป่วยมักมีอาการแสบร้อนและตึงๆ ผิว พบอาการคันได้น้อย และพบบ่อยกับผู้ที่มีการทายาสเตียรอยด์มาก่อน บางคนมีประวัติใช้เครื่องสำอาง หรือมีอาการแพ้เครื่องสำอางค์ หรือยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ยาสีฟันแบบที่ต่อต้านหินปูน และมอยส์เจอร์ไรเซอร์มีส่วนทำให้อาการผื่นแดงเป็นมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญบางท่านเชื่อว่าโรคผิวหนังชนิดนี้อาจมีความเกี่ยวเนื่องกับ rosacea 
"พีโอดี" มักเป็นเรื้อรัง ผู้ป่วยอาจเกิดความอายเพราะผื่นที่ใบหน้าแลดูไม่น่าดู ลักษณะเป็นผื่นผิวหนังอักเสบรอบปาก มีตุ่มแดง และตุ่มหนองร่วมด้วย มีโรคผิวหนังอีกชนิดที่อาจดูคล้าย "พีโอดี" คือโรคผิวหนังอักเสบจากการชอบเลียริมฝีปาก เกิดจากการระคายเคืองจากการเปียกชื้นน้ำลาย มีลักษณะเป็นผื่นแดง ลอกเป็นขุย หรือมีสะเก็ดรอบริมฝีปาก โดยเป็นเฉพาะบริเวณผิวหนังที่สามารถถูกลิ้นสัมผัสได้ บางรายผื่นมีสีแดงจัดเหมือนทาลิปสติกจนเปื้อนรอบปากคล้ายตัวตลกชื่อโบโซ่  โรคนี้อาจเรียกว่า "เพอริออรัล เอ็กซิม่า"  (perioral eczema) หรือ "พีโออี" (POE)  ซึ่งต้องแยกจากโรค "พีโอดี"
"พีโออี" มีลักษณะเป็นผิวหนังอักเสบแดงลอกที่ส่วนใหญ่พบในเด็ก พบบ่อยในผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้ ผู้ที่ชอบเลียปากและดูดนิ้วหัวแม่มือ  และในผู้ที่รับประทานยารักษาสิวกลุ่มกรดวิตามินเอ แต่ "พีโอดี"  จะมีลักษณะเป็นตุ่มแดงตุ่มหนองคล้ายสิวมักพบในสตรีวัยผู้ใหญ่ตอนต้น
อาการอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับผิวหนังอักเสบ perioral dermatitis 
Differential Diagnosis (Other conditions with similar appearance)
Acne Vulgaris
Contact Dermatitis, Allergic ผื่นแพ้สัมผัส เกิดผิวอักเสบและผื่นคัน ส่วนใหญ่แล้วจะมีอาการเรื้อรังในบริเวณที่รักษาไม่หายขาด
Contact Dermatitis, Irritant - ผื่นแพ้พันธุกรรม ปกติจะมีอาการคันมากกว่าการเป็นสิว และอาจเป็นได้ทั้งหน้าและมือ
Rosacea โดยปกติจะพบได้ที่แก้ม ทำให้ผิวแก้มแดง และเกิดเส้นเลือดฝอยแตก
Seborrheic dermatitis โดยปกติจะมีลักษณะแดงและเป็นสะเก็ดบริเวณผิวเหนือริมฝีปาก-ใต้จมูก และข้าง ๆ จมูก
- Steroid acne พบได้บนผิวหน้า ส่วนใหญ่จะทำให้เกิด rosacea การใช้ยาสเตียรอยด์นาน ๆ นั้นอาจทำให้เกิดสิวได้
 
ด้าน ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ผื่นผิวหนังอักเสบรอบปากวินิจฉัยค่อนข้างยาก เพราะจะมีลักษณะคล้ายกับสิวรอบปาก สาเหตุอาจเกิดจากการใช้สเตียรอยด์ทาหน้า หรือใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์นานๆ ลักษณะอาการคือจะเป็นผื่นแดงอักเสบกระจายรอบปาก คล้ายสิว แต่จะไม่มีการอุดตันเหมือนสิว พบได้ทั้งหญิงและชาย แต่ส่วนใหญ่จะพบในผู้หญิงมากกว่า สาเหตุคงเป็นเพราะผู้หญิงใช้เครื่องสำอางเยอะกว่าและมีโอกาสได้รับสเตียรอยด์จากเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ไปซื้อยารักษาฝ้ามาทา อาจจะมีส่วนผสมของไฮโดรคิโนน สเตียรอยด์ และกรดวิตามินเอ พอนำมาทาหน้าก็เลยทำให้เกิดผื่นผิวหนังอักเสบรอบปากได้ ทั้งนี้พบผู้ป่วยผื่นผิวหนังอักเสบรอบปากได้ไม่บ่อยนัก ผู้ป่วยบางคนอาจคิดว่าเป็นสิว ซึ่งความจริงอาจจะเป็นผื่นผิวหนังอักเสบรอบปากก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เป็นผื่นแดงรอบปากแล้วไม่หายเสียทีควรมาพบแพทย์

ในผู้ป่วยบางราย เวลาเป็นผื่นลักษณะนี้ เมื่อไปพบแพทย์ๆ อาจจะให้สเตียรอยด์มาทา ยิ่งทาก็ยิ่งไม่หาย ก็ให้สงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ คือ ปกติยาทาสิวที่หมอผิวหนังใช้รักษาคนไข้จะไม่ใช้สเตียรอยด์ แต่บางคลินิกอยากให้คนไข้สิวหายเร็วก็จะใส่สเตียรอยด์เข้าไปด้วย ก็ยิ่งทำให้เกิดปัญหาตามมา
การรักษา   
ผิวหนังอักเสบ Perioral Dermatitis
คือผื่นคันบนผิวหน้าที่อักเสบเป็นตุ่มแดง หรือตุ่มหนองอักเสบ บางครั้งเป็นตุ่มใสพุพอง หรือน้ำหนอง ซึ่งมักเกิดขึ้นบริเวณรอบปาก จมูกและคาง และอาจเกิดอาการผิวแดงที่คาง แก้มและเหนือริมฝีปาก โดยเฉพาะถ้าได้ครีมสเตียรอยด์ - - อาจมีอาการคันและเจ็บแสบร่วมด้วย
ใครที่จะเป็นผิวหนังอักเสบ Perioral Dermatitis โดยมากมักเป็นในผู้หญิง ในผู้ชายนั้นก็มีบ้างนาน ๆ ครั้ง โดยส่วนใหญ่เป็นที่เปลือกตา  อาการจะอยู่เป็นเดือน ๆ และอาจกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
จะจัดการกับผิวหนังอักเสบ perioral dermatitis ได้อย่างไร

1) ดูแลตัวเอง
-
โดยการหลีกเลี่ยงทุกสิ่งทุกอย่าง เว้นเสียแต่ยาสเตียรอยด์ภายนอกชนิดอ่อนที่สุดกับผิวหน้า แล้วค่อยลดปริมาณลง หากใช้เป็นเวลานานควรอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ผิวหนังจะดีที่สุด
-
ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์แต่เพียงน้อย ๆ เครื่องสำอางต่าง ๆ ควรเป็นชนิดปราศจากน้ำมัน และมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ
-
ใช้พวกเมคอัพสำหรับปกปิดได้ แต่จะลดการทำงานของตัวยาที่ใช้ในการรักษาลงกว่าปกติ  งดการใช้เครื่องสำอางค์ประเภท ผลัดเซลล์ผิว สครัป เครื่องสำอางค์ต่อต้านริ้วรอย ยาพ่นจมูกบางชนิด
ควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทำให้หลอดเลือดในชั้นหนังแท้ขยายตัว เช่น แอลกอฮอล์ และอาหารที่ร้อนจัด

2) การใช้ยา  ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเลือกในการรักษา  มีการใช้ยาต้านการอักเสบทั้งในรูปยาทาและยากิน

ยาทาภายนอก
-
ได้ผลพอสมควร แต่การรับประทานยาปฏิชีวนะนั้นก็จำเป็นเพื่อให้ได้ผลเร็วขึ้น
-
การทาครีมหรือโลชั่นเช่น ครีม metronidazole ควรทาวันละสองครั้ง จะเห็นผลหลังจากการใช้ประมาณ 2-3 เดือน 

ในรายที่มีอาการรุนแรง แพทย์อาจให้ยารักษาสิวชนิดกิน อาจพิจารณาเลือกใช้ยาทาตามความเหมาะสม และให้ ผู้ป่วยหยุดยาทาและเครื่องสำอางทุกชนิด เพื่อกำจัดปัจจัยที่เป็นสาเหตุกระตุ้น วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่พร้อมจะปฏิบัติตาม มักได้ผลในผู้ป่วยที่โรคเกิดจากการทาสเตียรอยด์หรือแพ้เครื่องสำอาง แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเพราะผู้ป่วยคาดหวังว่าจะได้รับยาจากแพทย์และมีผลการรักษาที่เร็ว ผู้ป่วยทุกรายเมื่อรับการรักษาช่วงแรกอาการอาจเลวลง โดยเฉพาะในรายที่เคยใช้ยาทาสเตียรอยด์มาก่อน
แม้ว่า "พีโอดี" จะไม่ร้ายแรง และเป็นแค่ที่ผิวหนัง แต่ผู้ป่วยมักมีปัญหาทางจิตใจเพราะผื่นของโรคไม่น่าดู และการรักษามักกินเวลานาน ในการรักษาช่วงแรกโรคมักกำเริบ ผู้ป่วยควรใจเย็นไม่วิตกกังวลมากเกินควร ในผู้ป่วยกลุ่มเด็ก และสตรีมีครรภ์ควร ใช้แค่ยาทา ห้ามใช้ในรูปยากินเพราะอาจมีข้อแทรกซ้อนจากยา สำหรับการรักษาผื่นผิวหนังอักเสบรอบปากจะคล้ายๆ กับการรักษาสิว โดยอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือน ผู้ป่วยจะต้องหยุดสาเหตุที่มาสัมผัสหรือกระตุ้น เช่น เครื่องสำอาง  ครีมที่มีสเตียรอยด์

ยารับประทาน
หากว่าได้รับการรักษาที่เหมาะสมเพียงพอแล้ว โอกาสในการกลับมาเป็นซ้ำนั้นค่อนข้างต่ำ ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยเป็นผิวหนังอักเสบ perioral dermatitis จะมีอาการดีขึ้นหลังจาก 4-6 สัปดาห์ แต่ในบางรายก็ต้องใช้ระยะเวลา การรักษาด้วยวิธีการรับประทานยาปฏิชีวนะเช่น
- Minocycline 50-100
มิลลิกรัม วันละสองครั้ง จนกว่าจะหาย โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ในบางรายก็อาจต้องรับประทานต่ออีกสักพักในปริมาณที่น้อยลง และนานขึ้น 
- Tetracycline 500 มิลลิกรัม วันละสองครั้ง 6-12 สัปดาห์
- Doxycycline 100
มิลลิกรัม วันละสองครั้ง 6-12 สัปดาห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โปรดแสดงความคิดเห็น ด้วยคำสุภาพค่ะ